รถยนต์ไฟฟ้าไทยแจ้งเกิด ลดภาษีนำเข้าเหลือ 0%

วันเสาร์สบายๆวันนี้ไปคุยเรื่อง “รถยนต์ไฟฟ้า” อีกวันนะครับ ความฝันของผม ที่อยากเห็น คนไทยใช้รถยนต์ไฟฟ้า เพื่อลดมลพิษในอากาศจากรถยนต์ใช้น้ำมัน เริ่มเป็นจริงขึ้นมาแล้ว เมื่อ คุณอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีอุตสาหกรรม ได้เรียก สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ไปหารือ แนวทางส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicle (EV) ในประเทศไทย ตามนโยบายของ นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการผลักดันให้มีรถยนต์ไฟฟ้าใช้ภายในปี 2559 นี้

เป็นนโยบายเร่งด่วนที่ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง

ข่าวบอกว่า เบื้องต้น รัฐมนตรีอุตสาหกรรม กำหนดโควตา ให้นำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า 5,000 คัน ทั้ง รถยนต์นั่ง และ รถยนต์โดยสาร โดย ยกเว้นภาษีนำเข้าศุลกากรเป็น 0% แต่ให้เก็บ ภาษีสรรพสามิต 10% เพื่อเป็นแรงจูงใจให้มีการใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น แต่มีข่าวล่าว่า กรมสรรพสามิต ก็มีแนวคิดที่จะ ลดภาษีสรรพสามิตลงมาเหลือ 5% เพื่อจูงใจเช่นเดียวกัน ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกลงไปอีก

รถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันมีราคาแพงกว่ารถยนต์ใช้น้ำมัน เพราะแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมีราคาแพง แต่ก็จ่ายเพียงครั้งเดียวใช้ได้เป็นสิบปี ใน สหรัฐฯ ยุโรป ใครที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าไปใช้ถือว่าช่วยชาติในการลดภาวะโลกร้อนและมลพิษในอากาศ จะได้คืนภาษีคันละหลายพันดอลลาร์ บางคันก็ได้คืนเป็นหมื่นดอลลาร์ เพื่อจูงใจให้ใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น

ปี 2015 ยอดขายรถยนต์ทั่วโลกอยู่ที่ 72.37 ล้านคัน แต่เป็นยอดขาย รถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) เพียง 540,000 คันเท่านั้น เป็น รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด อีกราว 500,000 คัน ถือว่าน้อยมาก แค่ 1.38% ของจำนวนรถยนต์ที่ขายได้ทั้งหมด

แต่ ปรากฏการณ์รถยนต์ไฟฟ้าเทสลา ที่ผมเขียนถึงหลายครั้ง กำลังจะเปลี่ยนโลกไปสู่การใช้รถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะ รถยนต์ไฟฟ้าเทสลา โมเดล 3 ที่มีการจองล่วงหน้าถล่มทลายเกือบ 400,000 คัน ทั้งที่ยังไม่ได้ผลิต จะเริ่มผลิตในต้นปีหน้า

เทสลาโมเดล 3 ตั้งราคาขายในสหรัฐฯคันละ 35,000 ดอลลาร์ ราว 1.225 ล้านบาท ถ้านำเข้ามาขายในเมืองไทย ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า เสียแต่ภาษีสรรพสามิต 5% ราคาขายน่าจะอยู่ที่คันละไม่เกิน 2 ล้านบาท รับรองว่าขายระเบิดไม่แพ้ในสหรัฐฯแน่นอน

ปลายปีนี้ ค่ายจีเอ็ม ก็จะผลิต รถยนต์ไฟฟ้า รุ่น เชวี โบลท์ ออกมาขายแข่งกับเทสลา ตั้งราคาขายที่คันละ 35,000 ดอลลาร์ เช่นเดียวกัน

สิ่งมหัศจรรย์ที่กำลังเกิดขึ้นในเมืองไทยก็คือ ทุกกระทรวงที่เกี่ยวกำลังร่วมมือกันผลักดันรถยนต์ไฟฟ้า กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการคลัง รวมทั้ง กระทรวงพลังงาน ก็จัดทำแผนสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าเรียบร้อยแล้ว เดือนสิงหาคมจะประกาศ โครงสร้างค่าไฟฟ้าภาคขนส่ง ประกาศจดทะเบียนมาตรฐานสถานีชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ถ้าชาร์จไฟในช่วงกลางคืนจะคิดค่าไฟ 2.60 บาทต่อหน่วย ถ้าชาร์จในเวลากลางวันจะคิดค่าไฟ 6 บาทต่อหน่วย เพื่อจูงใจให้ชาร์จไฟในเวลากลางคืน จะได้ลดการใช้ไฟฟ้าพีกในเวลากลางวัน

ปตท. ก็โดดลงมาเล่นด้วย จับมือค่ายรถยนต์ยุโรปและญี่ปุ่นจัดตั้ง สถานีชาร์จไฟฟ้าฟรี ในปั๊มน้ำมัน ปตท. เจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าไม่ต้องจ่ายค่าไฟ ปตท.จ่ายให้เอง มีทั้ง สถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบรวดเร็วใช้เวลาชาร์จ 30–40 นาที ชาร์จได้ 80% ของความจุ และ การอัดประจุไฟฟ้าแบบธรรมดาใช้เวลาชาร์จ 8 ชั่วโมง ชาร์จได้เต็ม 100% ปัจจุบันมี 4 แห่ง จะเพิ่มเป็น 6 แห่งในปีนี้ และเป็น 20 แห่งในปีหน้า

เห็นความร่วมมือแบบนี้แล้ว ผมเชื่อว่า รถยนต์ไฟฟ้าไทยเกิดเร็วแน่นอนครับ ต่อไปก็คงจะได้เห็น มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ตุ๊กๆไฟฟ้า วิ่งเต็มเมือง ล่าสุดมีข่าว เทสลา จะสร้าง รถปิกอัพไฟฟ้า รถบรรทุกไฟฟ้า เพิ่มเติมออกมาอีก โลกยุคไร้น้ำมัน คงมาเร็วแน่นอน.

บทความโดย “ลมเปลี่ยนทิศ”

ที่มา : http://www.thairath.co.th/content/669751

ความเห็นของคุณ

comments

ใส่ความเห็น